นาคเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ก็โดยสมัยนั้นแล นาคตัวหนึ่งอึดอัด ระอา เกลียดกำเนิดนาค
นาคนั้นได้มีความดำริว่าด้วยวิธีอะไรหนอ เราจึงจะพ้นจากกำเนิดนาค
และกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน.
ครั้นแล้ว ได้ดำริต่อไปว่าสมณะเชื้อสายศากยบุตรเหล่านี้แล
เป็นผู้ประพฤติธรรม ประพฤติสงบ ประพฤติพรหมจรรย์กล่าวแต่
คำสัตย์ มีศีล มีกัลยาณธรรม หากเราจะพึงบวชในสำนักสมณะ
เชื้อสายศากยบุตร ด้วยวิธีเช่นนี้ เราก็จะพ้นจากกำเนิดนาคและ
กลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน.
ครั้นแล้วนาคนั้นจึงแปลงกายเป็นชายหนุ่มแล้วเข้าไปหา
ภิกษุทั้งหลายขอบรรพชา ภิกษุทั้งหลายจึงใหเข้าบรรพชาอุปสมบท
สมัยต่อมา พระนาคนั้นอาศัยอยู่ในวิหารสุดเขตกับภิกษุรูปหนึ่ง.
ครั้นปัจจุสสมัยแห่งราตรี ภิกษุรูปนั้น ตื่นนอนแล้วออกไป
เดินจงกรมอยู่ในที่แจ้ง ครั้นภิกษุรูปนั้นออกไปแล้ว พระนาคนั้น
ก็วางใจจำวัด วิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง.
ครั้นภิกษุรูปนั้นผลักบานประตูด้วยตั้งใจจักเข้าวิหาร
ได้เห็นวิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู เห็นขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง
ก็ตกใจ จึงร้องเอะอะขึ้น.
ภิกษุทั้งหลายพากันวิ่งเข้าไปแล้วได้ถามภิกษุรูปนั้นว่า
“อาวุโส ท่านร้องเอะอะไปทำไม ?”
ภิกษุรูปนั้นบอกว่า “อาวุโสทั้งหลาย วิหารนี้ทั้งหลังเต็มไป
ด้วยงู ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง”
ขณะนั้น พระนาคนั้นได้ตื่นขึ้นเพราะเสียงนั้น แล้วนั่งอยู่
บนอาสนะของตน.
ภิกษุทั้งหลายถามว่า “อาวุโส ท่านเป็นใคร ?”
น. “ผมเป็นนาค ขอรับ”
ภิ. “อาวุโส ท่านได้ทำเช่นนี้เพื่อประสงค์อะไร ?”
พระนาคนั้นจึงแจ้งเนื้อความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแก่พระผู้มีพระภาค
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ใน
เพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วได้ทรง
ประทานพระพุทธโอวาทนี้แก่นาคนั้นว่า :-
“พวกเจ้า เป็นนาค มีความไม่งอกงามในธรรมวินัยนี้
เป็นธรรมดา ไปเถิดเจ้านาค จงไปรักษาอุโบสถในวันที่ ๑๔
ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์นั้นแหละ ด้วยวิธีนี้ เจ้าจักพ้นจาก
กำเนิดนาค และจักกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน”.
ครั้นนาคนั้นได้ทราบว่าตนมีความไม่งอกงามในธรรมวินัยนี้
เป็นธรรมดา ก็เสียใจหลั่งน้ำตา ส่งเสียงดังแล้วหลีกไป.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า :-
ภิกษุทั้งหลาย ! เหตุแห่งความปรากฏตามสภาพ
ของนาค มีสองประการนี้คือ :-
เวลาเสพเมถุนธรรมกับนางนาคผู้มีชาติเสมอกัน ๑
เวลาวางใจนอนหลับ ๑
ภิกษุทั้งหลาย ! นี้แล เหตุแห่งความปรากฏ
ตามสภาพของนาค ๒ ประการ.
ภิกษุทั้งหลาย ! อนุปสัมบัน คือ สัตว์เดรัจฉาน
ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว ต้องให้สึกเสีย.
มหา. วิ. ๔/๑๗๕/๑๒๗
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment