การให้ทาน แล้วเป็นอนาคามี

-บาลี สตฺตก. อํ. ๒๓/๖๐/๔๙.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ที่การ

ให้ทานเช่นนั้นนั่นแล บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้แล้ว มีผลมาก แต่ไม่มี

อานิสงส์มาก และอะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ที่การให้ทานเช่นนั้นนั่นแล

บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้แล้ว มีผลมาก และมีอานิสงส์มาก.

ารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานโดยมีความ

หวังผล ให้ทานโดยมีจิตผูกพันในผล ให้ทานโดยมุ่งการ

สั่งสม (บุญ) ให้ทานโดยคิดว่า เราตายไปจักได้เสวยผลของ

ทานนี้ เขาจึงให้ทาน คือ ข้าว น้ำ เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ

ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย และ

ประทีปโคมไฟแก่สมณะหรือพราหมณ์ … เขาให้ทานเช่นนั้น

แล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาเหล่า

จาตุมหาราชิกา ครั้นสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความ

เป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้.


ารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานโดยไม่มี

ความหวังผล ให้ทานโดยไม่มีจิตผูกพันในผล ให้ทานโดย

ไม่มุ่งการสั่งสม (บุญ) ให้ทานโดยไม่คิดว่า “เราตายไปจักได้

เสวยผลของทานนี้” แต่เขาให้ทานด้วยคิดว่า “การให้ทาน

เป็นการดี” … เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึง

ความเป็นสหายแห่งเทวดาเหล่าดาวดึงส์ ครั้นสิ้นกรรม

สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ

มาสู่ความเป็นอย่างนี้.


ารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานโดยไม่มี

ความหวังผล … ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า “การให้ทาน

เป็นการดี” แต่ให้ทานด้วยคิดว่าบิดามารดา ปู่ย่า ตายาย

เคยให้เคยทำมา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี … เขาให้

ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่ง

เทวดาเหล่ายามา ครั้นสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความ

เป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้.


ารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานโดยไม่มี

ความหวังผล … ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่าบิดามารดา ปู่ย่า

ตายาย เคยให้เคยทำมา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี แต่

ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากิน สมณะหรือพราหมณ์เหล่านี้

ไม่หุงหากิน เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทานแก่สมณะหรือ

พราหมณ์ผู้ไม่หุงหา ไม่สมควร … เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว

เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาเหล่าดุสิต

ครั้นสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็น

ผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้.




ารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานโดยไม่มี

ความหวังผล … ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้ สมณะ

หรือพราหมณ์เหล่านี้หุงหากินไม่ได้ เราหุงหากินได้ จะไม่ให้

ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร แต่ให้

ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนฤาษีแต่

ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี วามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตร

ฤาษี ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาชฤาษี วาเสฏฐฤาษี

กัสสปฤาษี และภคุฤาษี บูชามหายัญ … เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว

เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาเหล่า

นิมมานรดี ครั้นสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็น

ใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้.


ารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานโดยไม่มี

ความหวังผล … ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจก

ทาน เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน คืออัฏฐกฤาษี … ภคุฤาษี

แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตจะเลื่อมใส

เกิดความปลื้มใจและโสมนัส … เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไป

ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาเหล่าปรนิมมิตวสวัสดี

ครั้นสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็น

ผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้.




ารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานโดยไม่มี

ความหวังผล … ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้

จิตจะเลื่อมใส เกิดความปลื้มใจและโสมนัส แต่ให้ทานเป็น

เครื่องประดับจิต เป็นบริขารของจิต (จิตฺตาลงฺการํ จิตฺตปริกฺขารํ) …

เขาให้ทานเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย

แห่งเทวดาเหล่าพรหมกายิกา ครั้นสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ

หมดความเป็นใหญ่แล้ว เป็นผู้ไม่ต้องกลับมา คือ ไม่มาสู่

ความเป็นอย่างนี้.

สารีบุตร นี้แล เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้ทานเช่นนั้นที่
บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก
และเป็นเหตุ เป็นปัจจัยเช่นนั้นที่บุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว
มีผลมาก และมีอานิสงส์มาก.

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment